ข่าวสาร/กิจกรรมโครงการ
ต้นแบบของถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ความเป็นมาของโครงการ
การประชุมร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน และผู้บริหารท้องถิ่น เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ได้พิจารณาบรรจุการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นและออกแบบแนวคิดเบื้องต้นเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอันดามันช่วงจังหวัดระนอง – จังหวัดสตูล ไว้ในแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566 โดยกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นฯ จากนั้น เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ลงนามในสัญญาจ้างที่ปรึกษา การศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นและออกแบบแนวคิดเบื้องต้นเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน ช่วงจังหวัดระนอง – จังหวัดสตูล เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในการส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน ในกลุ่มจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันอย่างเป็นรูปธรรม
โครงการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นและออกแบบแนวคิดเบื้องต้นเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน ช่วงจังหวัดระนอง – จังหวัดสตูล เป็นโครงการที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้รับมอบหมายจากกระทรวงคมนาคม ให้ทำการศึกษาและออกแบบแนวคิดเบื้องต้นในการพัฒนาด้านคมนาคมทางบกในพื้นที่ภาคใต้เลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อการส่งเสริมและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมให้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวให้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นระบบที่สนับสนุนการเดินทางเชิงการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ โครงการพัฒนาด้านคมนาคมทางบกในพื้นที่ภาคใต้เลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน จึงเป็นโครงการสำคัญในการพัฒนาเชิงพื้นที่ตลอดแนวเส้นทาง ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงการเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังสามารถพัฒนาพื้นที่ให้เกิดแหล่งท่องเที่ยว และการเดินทางท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เกิดอุปสงค์เหนี่ยวนำ (Induced Demand) ซึ่งจะส่งผลให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวด้วย
จากความเป็นมาของโครงการข้างต้น เพื่อเป็นการให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเล หรือ Riviera Road ยิ่งขึ้น สนข. จึงขอนำเสนอสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับถนนลักษณะดังกล่าว ดังนี้
ถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเล (Riviera Road)
Riviera หมายถึง บริเวณพื้นที่ชายฝั่งที่มีสภาพอากาศและพืชพันธุ์แบบเขตร้อน นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาท่องเที่ยว เนื่องจากมีความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นชายหาด วัฒนธรรม ตัวเมือง กิจกรรมในท้องถิ่น และอาหารที่โดดเด่นของพื้นที่นั้น ๆ ตลอดจน มีที่พัก โรงแรม หรือรีสอร์ทที่ทันสมัยและเป็นที่นิยม โดยถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลริเวียร่า (Riviera Road) ก็คือถนนที่มีแนวเส้นทางผ่านพื้นที่ที่มีลักษณะดังกล่าวนั่นเอง
ถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นต้นแบบของถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลให้กับเมืองต่าง ๆ ในหลายประเทศทั่วโลก ได้แก่ French Riviera และ Italy Riviera โดยมีแนวเส้นทางเชื่อมต่อกันและลัดเลาะไปตามเมืองชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งครอบคลุมทั้ง 2 ประเทศ คือ อิตาลี และฝรั่งเศส เส้นทางริเวียร่าเป็นต้นแบบเส้นทางท่องเที่ยวเมืองริมทะเลลำดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งปัจจุบันประสบความสำเร็จ และยังเป็นต้นแบบของการจัดการธุรกิจท่องเที่ยว การจัดเส้นทาง และการจัดการการใช้พื้นที่ ของเมืองติดทะเลที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
ฝรั่งเศสริเวียร่า (French Riviera)
France Riviera คือ ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส มีขอบเขตตั้งแต่เมืองตูลง (Toulon) ไปสิ้นสุดบริเวณเมืองม็องตง (Menton) ซึ่งเป็นชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี ซึ่งเป็นจุดที่บรรจบกับ Italian Riviera พอดี การเชื่อมโยงและการเข้าถึงเส้นทาง (Accessibility and Connectivity) สามารถเข้าถึงและเชื่อมโยงได้ทั้ง ทางรถยนต์ ทางอากาศ ระบบราง และเรือโดยสาร มีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ระบบขนส่งให้บริการภายในพื้นที่ ได้แก่ ระบบขนส่งสำหรับ Family Trip ระบบรางความจุต่ำ (Light Rail Transit, LRT) มีบริการโรงพยาบาลระดับ 5 ดาว ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์การประชุม ฯลฯ นอกจากนี้ จุดเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่ ถนนเลียบชายหาด (Promenade) ขนาดใหญ่ เลียบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการพักผ่อนและสันทนาการ เมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจตามแนวเส้นทาง ได้แก่ Toulon Saint-Tropez Cannes Nice Monaco และ Menton รูปแนวเส้นทาง French Riviera และทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองข้างต้น ดังแสดงในรูปที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

รูปที่ 1 แนวเส้นทางของ French Riviera






รูปที่ 2 เมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจตามแนวเส้นทาง French Riviera
อิตาลีริเวียร่า (Italy Riviera)
อิตาลีริเวียร่า (Italy or Italian Riviera) หรือ Ligurian Riviera คือ พื้นที่บริเวณช่องแคบชายฝั่งระหว่างทะเล Ligurian และเทือกเขาแอลป์ ทอดยาวตามแนวบริเวณประเทศฝรั่งเศส และ French Riviera โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เมือง Genoa ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1) Riviera di Ponente (The Coast of The Setting Sun) อยู่ทางตะวันตกของเมืองเจนัว หรือชายฝั่งทะเลตะวันตก แผ่ขยายจาก Genoa ไปยังชายแดนประเทศฝรั่งเศส และ 2) Riviera di Levante (The Coast of The Rising Sun) อยู่ทางตะวันออกของเมือง เจนัว หรือชายฝั่งทะเลตะวันออก การเชื่อมโยงและการเข้าถึงเส้นทาง (Accessibility and Connectivity) สามารถเข้าถึงและเชื่อมโยงได้ทั้ง ทางรถยนต์ ทางอากาศ ระบบราง และเรือโดยสาร เช่นเดียวกับ France Riviera มีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ระบบขนส่งสาธารณะให้บริการในเมืองและระหว่างเมือง, ระบบรางเชื่อมโยงพื้นที่หลัก, แท็กซี่, จักรยานสาธารณะ, ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว, ถนนเลียบชายหาด (Promenade) ป้ายบอกทางที่สมบูรณ์สำหรับการสัญจรด้วยการเดิน เมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจตามแนวเส้นทาง ได้แก่ Genoa Savona Sestri Levante และ La Spezia รูปแนวเส้นทาง Italy Riviera และทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองข้างต้น ดังแสดงในรูปที่ 3 และ 4 ตามลำดับ

รูปที่ 3 แนวเส้นทางของ Italy Riviera




รูปที่ 4 เมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจตามแนวเส้นทาง Italy Riviera
นอกจาก French Riviera และ Italy Riviera ที่นำเสนอข้างต้น ยังมีถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ มีแนวเส้นทางผ่านภูมิประเทศที่มีทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงาม ถนนดังกล่าวได้แก่ Great Ocean Road รัฐวิกตอเรีย เครือรัฐออสเตรเลีย
Great Ocean Road รัฐวิกตอเรีย เครือรัฐออสเตรเลีย
Great Ocean Road ถูกจัดอันดับเป็น 1 ในรายชื่อสถานที่มรดกแห่งชาติของประเทศเครือรัฐออสเตรเลีย (Australian National Heritage) มีระยะทางโดยรวม 240 กิโลเมตร (150 ไมล์) เป็นถนน 2 ช่องจราจร มีแนวเส้นทางผ่านชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย ระหว่างเมือง Torquay และเมือง Allansford ซึ่งอยู่ใกล้กับ Warrnambool เป็นถนนที่มีการควบคุมการใช้ความเร็วในการสัญจร โดยจำกัดความเร็วอยู่ระหว่าง 50 – 100 กม./ชม. ถนน Great Ocean Road มีลำดับการพัฒนาเส้นทาง ดังนี้
Great Ocean Road ถูกจัดอันดับเป็น 1 ในรายชื่อสถานที่มรดกแห่งชาติของประเทศเครือรัฐออสเตรเลีย (Australian National Heritage) มีระยะทางโดยรวม 240 กิโลเมตร (150 ไมล์) เป็นถนน 2 ช่องจราจร มีแนวเส้นทางผ่านชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย ระหว่างเมือง Torquay และเมือง Allansford ซึ่งอยู่ใกล้กับ Warrnambool เป็นถนนที่มีการควบคุมการใช้ความเร็วในการสัญจร โดยจำกัดความเร็วอยู่ระหว่าง 50 – 100 กม./ชม. ถนน Great Ocean Road มีลำดับการพัฒนาเส้นทาง ดังนี้
Great Ocean Road ถูกจัดอันดับเป็น 1 ในรายชื่อสถานที่มรดกแห่งชาติของประเทศเครือรัฐออสเตรเลีย (Australian National Heritage) มีระยะทางโดยรวม 240 กิโลเมตร (150 ไมล์) เป็นถนน 2 ช่องจราจร มีแนวเส้นทางผ่านชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย ระหว่างเมือง Torquay และเมือง Allansford ซึ่งอยู่ใกล้กับ Warrnambool เป็นถนนที่มีการควบคุมการใช้ความเร็วในการสัญจร โดยจำกัดความเร็วอยู่ระหว่าง 50 – 100 กม./ชม. ถนน Great Ocean Road มีลำดับการพัฒนาเส้นทาง ดังนี้
- ปี ค.ศ. 1986 ถูกจัดเป็นทางหลวงหมายเลข 100 (State Route 100) เชื่อมระหว่างเมือง Torquay และ Allansford
- ปี ค.ศ. 1996 มีการปรับระบบการตั้งชื่อถนน โดยนตัวอักษร มาใช้ประกอบกับตัวเลข เปลี่ยนชื่อเป็นทางหลวงหมายเลข B 100
- ปี ค.ศ. 2004 พระราชบัญญัติ Road Management Act 2004 ทำให้เกิดการโอนย้ายสายทางของถนนสายประธานของรัฐวิคตอเรียทั้งหมด ให้อยู่ภายใต้การกำกับของ VicRoads ทางหลวงหมายเลข B 100 จึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Great Ocean Road (ถนนสายประธาน หมายเลข 4890) โดยมีจุดเริ่มต้นจาก ทางหลวง Surf Coast Highway ที่เมือง Torquay ไปสิ้นสุดที่ทางหลวง Princes Highway ในเมือง Allansford
- ปี ค.ศ. 2004 มีการเปิดใช้เส้นทางเดิน Great Ocean Walk เชื่อมโยงเส้นทางเดินท่องเที่ยวระยะทาง 104 กม. ตามแนวแนวชายฝั่งใกล้กับ Great Ocean Road เริ่มจากจุดท่องเที่ยวสำคัญ Apollo Bay ไปยัง Twelve Apostles
- ปี ค.ศ. 2020 เดือนธันวาคม 2020 พระราชบัญญัติ Great Ocean Road and Environments Protection Act 2020 มีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย โดยพระราชบัญญัตินี้ ถูกบัญญัติขึ้นมาเพื่อให้ Great Ocean Road และองค์ประกอบอื่นโดยรอบแนวเส้นทาง ได้รับการคุ้มครองและดูแลรักษา ทั้งตัวถนน ทรัพยากรธรรมชาติโดยรอบ และสภาพแวดล้อมธรรมชาติตามแนวเส้นทาง
- ปัจจุบัน Great Ocean Road ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสัญลักษณ์มรดกทางวิศวกรรมแห่งชาติ (Engineering Heritage National Maker) จากองค์กร Engineers Australia
จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจตามแนวเส้นทาง Great Ocean Road ได้แก่ Anglesea Lorne Apollo Bay และ London Arch รูปแนวเส้นทาง Italy Riviera และทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองข้างต้น ดังแสดงในรูปที่ 5 และ 6 ตามลำดับ

รูปที่ 5 แนวเส้นทางของ Great Ocean Road




รูปที่ 6 จุดเที่ยวที่น่าสนใจตามแนวเส้นทาง Great Ocean Road
จากกรณีศึกษาข้างต้น สามารถสรุปแนวคิดหลักที่ได้จากการทบทวนได้ ดังนี้
- เป็นถนนที่เพิ่มความสามารถในการเข้าถึง (Accessibility) และความสามารถในการเชื่อมต่อ (Connectivity) สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และจุดชมวิวที่เข้าถึงยาก ให้ง่ายและสะดวกต่อการเดินทางนักท่องเที่ยว
- เป็นถนนที่ปลอดภัยต่อการสัญจร มีการติดตั้งป้ายและเครื่องหมายจราจร รวมถึงป้ายบอกทางและสถานที่ อย่างถูกต้อง และครบถ้วน
- ผ่านสถานที่น่าสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นทุนทางธรรมชาติ มีทัศนียภาพที่สวยงาม ภูมิทัศน์ที่แปลกตาสวยงาม เป็นจุดดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยว
- เมื่อมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบแล้ว มีการยกระดับเส้นทางและพื้นที่โดยรอบให้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมาย ในเรื่องของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- มีการบริหารจัดการที่ดีในทุกด้านเพื่อให้ถนนและพื้นที่โดยรอบอยู่ได้อย่างยั่งยืน อาทิ การจัดการการเดินทาง ระบบขนส่ง และการเข้าถึง การจัดการด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม การจัดการด้านกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การจัดการแหล่งกิจกรรมโดยรอบเส้นทาง การจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
- ชุมชนโดยรอบเส้นทางได้รับประโยชน์ ก่อให้เกิดความผูกพัน รักหวงแหน และเป็นเจ้าของถนนร่วมกัน
กรณีศึกษาดังกล่าวนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับโครงการศึกษาที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาเส้นทางและเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยต่อไป